ศิริกัญญา-วิโรจน์ เยือนมหาสารคาม ฟังปัญหาเกษตรกรเลี้ยงวัว ชี้ รัฐบาลเยียวยาลัมปีสกินล่าช้า
‘ศิริกัญญา’ เยือนมหาสารคาม เพื่อฟังปัญหาเกษตรกรเลี้ยงวัว พร้อมชี้ว่า รัฐบาลเยียวยาล่าช้าและไม่ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด ด้าน ‘วิโรจน์’ ซัด รัฐบาลไม่สต็อกวัคซีนลัมปีสกิน แต่สต็อกอาวุธทั้งที่ไม่มีสงคราม
ศิริกัญญา ตันสกุล, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, สุรวาท ทองบุ, ทวีศักดิ์ ทักษิณ ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อดิศักดิ์ สมบัติคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม เขต 4 พรรคก้าวไกล และทีมจังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ตลาดนัดโคกระบือหนองกุง ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม เพื่อรับฟังปัญหาเกษตรกรที่เดือดร้อนจากการระบาดของโรคลัมปีสกินในวัวได้รับการเยียวยาล่าช้า
ศิริกัญญา กล่าวว่า การได้ฟังเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทำให้เข้าใจความยากลำบากของเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวและเห็นว่ามาตรการช่วยเหลือที่ผ่านมาของรัฐบาลไม่ตรงจุด
“รัฐบาลสัญญาว่าจะเพิ่มเงินส่วนต่างค่าชดเชยวัวที่ตายจากโรคลัมปีสกิน แต่รัฐบาลไม่เคยประกาศว่าจะออกมาตรการเยียวยาวัวที่เสียราคาจากการเคยป่วย และผู้ที่อยู่ในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบ เขียงเนื้อที่ขาดรายได้ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่ขาดรายได้ นายฮ้อยตลาดนัดซื้อขายวัวกระบือที่ขาดรายได้ รัฐบาลไม่เคยมีมาตรการเยียวยาออกมา
“การระบาดที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้เกิดจากเกษตรกร แต่เกิดจากรัฐบาลที่รู้ล่วงหน้าจากการเตือนขององค์กรระหว่างประเทศตั้งแต่ปี 2563 แล้ว แต่ยังไม่มีมาตรการใดมาป้องกัน ปล่อยให้ลัมปีสกินระบาดในประเทศไทยได้ ใครกันแน่ที่ควรต้องชดใช้ความเสียหาย”
ส่วนวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้แสดงความรู้สึกเสียใจต่อการจัดการโรคลัมปีสกิน ที่ล้มเหลวของรัฐบาล พร้อมตั้งคำถามว่า ข้าราชการกรมปศุสัตว์ชี้แจงว่าไม่สามารถสต็อกวัคซีนลัมปีสกินได้ เพราะเป็นโรคที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ทำไมทหารขยันสต็อกอาวุธจนไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ทั้งที่สงครามยังไม่เกิดขึ้น
วิโรจน์ ยังกล่าวอีกว่ามาตรการป้องกันโรคระบาดของรัฐบาลที่สั่งปิดตลาดนัดโค-กระบือ ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนจากการกดราคาของพ่อค้าคนกลาง
“ผมได้รับรายงานมาว่ามีพ่อค้าคนกลางบางกลุ่ม ไปซื้อวัวจากเกษตรกร และอ้างกับเกษตรกรว่าสามารถเคลื่อนย้ายวัวข้ามจังหวัดได้ โดยวิธีการที่ไม่ปกติมีค่าใช้จ่ายแอบแฝง แล้วเอาเหตุผลนี้ไปกดราคาวัวของพี่น้องเกษตรกร ผมอยากฝากให้กรมปศุสัตว์ที่อยู่ในที่นี้ด้วย ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการหากินบนความทุกข์ยากของเกษตรกรหรือไม่”
วิโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย
“โจทย์ตอนนี้ ในการแก้ปัญหาลัมปีสกินผมขอ 2 เรื่อง เรื่องแรก คือเมื่อไหร่เงินเยียวยาจะมา ประชาชนรอนานแล้ว อย่าอ้างแต่ระเบียบขั้นตอนราชการ อีกเรื่องคือให้ตลาดนัดโคกระบือเปิดให้ได้โดยเร็ว โดยต้องระดมวัคซีนมาให้มากที่สุดเพื่อควบคุมโรค อย่าให้ซ้ำรอยวัคซีนคน ผมหวังว่าครั้งต่อไปที่ผมมาเยือนตลาดแห่งนี้จะเต็มไปด้วยวัว-ควายที่ทำการซื้อ-ขาย ไม่ใช่เป็นทุ่งรกร้างแบบภาพที่เราเห็นในวันนี้”