‘ก้าวไกล’ ฟังเสียงคนอุบลฯ เผย ‘โครงการคลองผันน้ำ’ ขาดการมีส่วนร่วม
ลุยต่อ! ‘ชัยธวัช’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ ฟังเสียงคนอุบลฯ เผย ‘โครงการคลองผันน้ำ’ ขาดการมีส่วนร่วม กระทบที่ดินทำกิน ชี้ เป็นผลพวงของ ‘รัฐราชการรวมศูนย์’ แต่ไม่ตอบโจทย์ประชาชน
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, คำพอง เทพาคำ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ, เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 22 คลองสาน บางกอกใหญ่ ธนบุรี พรรคก้าวไกล,วิศรุต สวัสดิ์วร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อุบลราชธานี เขต 1, วัฒนชัย มากมูล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อุบลราชธานี เขต 2 และ ประภัสสร สายเพ็ชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 10 เดินทางไป ตำบลบ้านไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรับฟังปัญหากรณีที่มีการร้องเรียนผลกระทบเรื่องที่ดินทำกินและที่พักอาศัยจากแผนงานโครงการก่อสร้างคลองผันน้ำเลี่ยงเมืองอุบล
กมล หอมกลิ่น ผู้ประสานชุมชนตำบลไร่ใต้ กล่าวว่า ตั้งแต่อดีตพื้นที่นี้มีโครงการของภาครัฐเข้ามาหลายโครงการ ทำให้ได้รับผลกระทบหลายอย่าง ตั้งแต่การสร้างเขื่อนในปี 2540 การก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ในปี 2550 และโครงการคลองผันน้ำขนาดใหญ่ที่เข้ามาในปีนี้ โดยอ้างว่าเพื่อแก้ไขปัญหาจากพายุโพดุลและคาจิกิในปี 2562 แต่โครงการดังกล่าวขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่มีการศึกษา EIA โดยอ้างว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีจำนวนที่ดินที่ได้รับผลกระทบกว่า 8,000 ไร่ กระทบชาวบ้านมากกว่า 400 หลังคาเรือน
“โครงการนี้มีมูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท มีข้อสังเกตว่า การอนุมัติเกิดจากความเกรงอกเกรงใจนักการเมืองในพื้นที่ ดำเนินการก่อสร้างโดยไม่ฟังเสียงชาวบ้านและขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงขอเป็นตัวแทนชาวบ้านในการสะท้อนปัญหา หวังว่าสักวันเสียงของชาวบ้านจะดังขึ้นและดังไปถึงรัฐบาล”
“สำหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่ทางกรมชลประทานได้เสนอไว้มี 4 แนวทาง คือ 1.ลอกลำน้ำเดิมให้ดีขึ้น 2.ระเบิดเเก่งสะพือ 3.ขุดพื้นที่รับน้ำตามความเหมาะสม 4.สร้างคลองผันน้ำขนาดใหญ่ โดยรัฐเลือกสร้างคลองผันน้ำทั้งที่ชาวบ้านไม่ได้ต้องการน้ำ แต่คนที่ต้องการน้ำคือกลุ่มนายทุนที่จะนำไปใช้เชิงพาณิชย์”
นอกจากนี้ ยังมีเสียงสะท้อนจากประชาชนที่มาร่วมวงเสวนาซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า โครงการดังกล่าวแก้ไขปัญหาน้ำท่วมช่วยคนรวย เเต่ซวยคนจน ทำให้ประชาชนไม่น้อยต้องสูญเสียที่นาที่ปู่ย่าตายายสร้างไว้ให้ลูกหลาน หลายคนสะท้อนถึงความเสียใจที่ไม่สามารถรักษาสมบัติผืนดืนที่ทำกินเอาไว้ได้ และยืนยันว่าคนพื้นที่ไม่ได้ต้องการน้ำและพวกเขาสามารถปรับตัวได้ในฤดูฝน แต่โครงการรัฐทำให้ต้องสูญเสียสมบัติปู่ย่าตายายและอ้างว่าเป็นความต้องการ ทั้งที่จริงแล้วโครงการนี้คือโครงการที่รัฐรุกที่ดินของประชาชนโดยไร้มาตรการเยียวยา
ชัยธวัช กล่าวว่า ขอเสนอให้ใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎร ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะโครงการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงระบบรัฐราชการรวมศูนย์ที่ทำให้ประชาชนไม่มีส่วนร่วมจริงๆ และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า ตกลงเเล้วโครงการนี้ตอบโจทย์ปัญหาประชาชนจริงหรือไม่ หรือตอบโจทย์ใครเเละใครได้ประโยชน์ใครกันแน่
“สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดคือมีหลายโครงการที่ชาวบ้านไม่ได้ใช้น้ำจากโครงการของรัฐหรือไม่ตอบโจทย์ของพื้นที่ คล้ายกับโครงการขนาดใหญ่ที่นครศรีธรรมราชที่ใช้งบประมาณสูงมาก แต่ไม่แน่ใจว่าใครได้ประโยชน์ รัฐควรต้องคำนึงถึงประชาชน ต้องเลือกเเนวทางที่ดีที่สุด มีผลกระทบน้อยที่สุด ที่ผ่านมาเมื่อมีโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ คนที่ได้รับผลกระทบคือคนตัวเล็กตัวน้อย คนที่รับกรรมคือประชาชน ดังนั้น การมีส่วนร่วมของประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ มาตรการการเยียวยาก็ต้องชัดเจน
ชัยธวัช กล่าว
“ในอนาคตจะต้องมีการหารือร่วมกับระหว่างประชาชนที่ได้รับผลกระทบกับคนในเมือง ผมเชื่อว่าคนในเมืองอุบลก็อยากรับฟังปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่ว่าต้องการอะไร และต้องการรู้เช่นกันโครงการแบบนี้ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง”
ขณะ อมรัตน์ กล่าวว่า ในฐานะ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร ตามกฎหมาย กระบวนการมีส่วมร่วมของประชาชนต้องจัดตามรูปแบบที่ระบุไว้ อย่างกรณีของนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา มีการใช้กลไกของรัฐสภาในรูปแบบกรรมาธิการทบทวนเวที คือหากเห็นว่ากระบวนการมีส่วนร่วมมีความไม่ชอบธรรมก็ต้องจัดใหม่ เรื่องนี้จะให้คณะทำงานพรรคก้าวไกลอุบลจะรับเรื่องเข้ามาเพื่อจะนำเข้า กมธ. หน้าที่ของพวกเราสะท้อนในฐานะผู้แทนประชาชนจะช่วยทำให้เสียงดังขึ้น เพื่อให้มีอำนาจต่อรองกับภาครัฐได้
ด้าน เท่าพิภพ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นลูกหลานชาวอุบลฯ ด้วย มีความเข้าใจในปัญหานี้ เพราะในพื้นที่เขตคลองสาน ที่รับผิดชอบในฐานะผู้แทนราษฎรก็ได้รับทราบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้มาตลอด ยกตัวอย่างเช่น กรณีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ที่เอื้อประโยชน์ต่อคนรวยหรือนายทุน แต่ส่งผลกระทบให้กับคนรากหญ้าไม่น้อย จึงขอให้กำลังใจให้พ่อแม่พี่น้องและขอร่วมกับประชาชนต่อสู้ เชื่อว่าเมื่อรวมตัวกัน เสียงของประชาชนจะดังขึ้นอย่างแน่นอน
ตลอดการลงพื้นที่รับฟังปัญหาของทีมงานพรรคก้าวไกล ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี แม้ว่ามีฝนที่ตกตลอดทั้งวันแต่ก็มีคนมารอให้กำลังใจอย่างหนาแน่น หลังจากนี้เลขาธิการพรรคก้าวไกลพร้อมทีมงานจะเดินทางไปร่วมหารือกับคณะทำงานพรรคก้าวไกลจังหวัดอุบลฯ เพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาเเละรับฟังข้อเสนอแนะจากพื้นที่เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนต่อไป
