
‘ปดิพัทธ์’ แฉ ค่าย ‘วชิรปราการ’ สร้างอ่างเก็บน้ำไร้มาตรฐาน น้ำท่วมบ้านเรือนรอบค่าย
‘ปดิพัทธ์’ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวบ้านรอบค่ายทหาร ‘วชิรปราการ’ หลังค่ายทหารแอบสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มาตรฐาน น้ำไหลท่วมบ้านเรือนเสียหายหนัก มีผู้เสียชีวิต 1 ราย แต่ผ่านไป 1 เดือนก็ยังไม่มีการชี้แจงรายละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกลพร้อมว่า คริษฐ์ ปานเนียม, รัชพงษ์ สร้อยสุวรรณ และ ปรัชญา ปุณหะกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดตาก ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนของพี่น้องจากตำบลไม้งาม หมู่ 6 และ 7 ในอำเภอเมือง จังหวัดตาก หลังได้รับแจ้งว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบหนักจากเหตุน้ำท่วมฉับพลัน เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา


จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ พบว่า ช่วง 09.30 น. ที่ระดับน้ำสูงไม่เกิน 20 เซนติเมตรเท่านั้น แต่เวลาประมาณ 11.00 น. ชาวบ้านสังเกตว่าน้ำที่ไหลลงมาเป็นสีดินลูกรัง จึงได้ไปดูคันดินในค่ายวชิรปราการ ก็พบว่า น้ำใกล้ล้นคันดิน และคันดินบางส่วนก็พังลงมา จึงมีคนตะโกนบอกให้หนี เพราะอ่างเก็บน้ำจะแตก แต่ก็ไม่มีใครเก็บข้าวของหนีน้ำได้ทัน เพราะอีก 4-5 นาทีต่อมา มวลน้ำก็มาถึงบริเวณที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ระดับน้ำสูงขึ้นมาถึงหน้าอก สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน รถยนต์และทรัพย์สินของชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือน อีกทั้งยังมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย 1 ราย


หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่อย่างหวาดระแวงว่าจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกหรือไม่ บางคนยังต้องไปอาศัยบ้านญาติ หรือเช่าบ้านอยู่ บางคนสภาพจิตใจย่ำแย่ เกิดภาวะ ซึมเศร้า วิตกกังวล และหวาดระแวง อยู่ตลอดเวลา และจนถึงวันนี้มีน้ำท่วมรวม 7 ครั้งแล้ว โดยที่ชาวบ้าน ยังไม่ได้รับการเยียวยา ดูแล จากหน่วยงานใดๆ

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า หลังจากที่ชาวบ้านได้รวมตัวกันแสดงความคิดเห็นก็ได้ข้อสรุปว่า เหตุน้ำท่วมนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ทางธรรมชาติแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมา หากฝนตกหนักก็จะมีน้ำท่วมขังเพียง 15 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ครั้งนี้ ฝนตกเพียงชั่วคืนเดียวกลับสร้างความสูญเสียที่มากมายมหาศาล นอกจากจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าจากหน่วยงานรัฐเลย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพ ก็ยังไม่ออกมาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้ชาวบ้านรับทราบอีกด้วย


บริเวณพื้นที่ติดกับบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เป็นพื้นที่ของ เขตทหาร มณฑลที่ 310 ซึ่ง มีการก่อสร้างคันดินระหว่างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 อ่างที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้คันดินทลายลงมา โดยก่อนการสร้างอ่างเก็บน้ำก็ไม่ได้แจ้งชาวบ้านผู้พักอาศัยในพื้นที่ติดกัน ชาวบ้านทราบเพียงแต่มีเครื่องจักรหนักทำงานต่อเนื่อง จนมาทราบภายหลังว่า มีการขุดอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และมีการเสริมคันดินขึ้นมาในระดับที่สูงกว่าหลังคาบ้านเรือนที่พักอาศัยในบริเวณนั้น
จากข้อมูลที่ได้รับแจ้งมา แม้มีทหารจำนวนหนึ่งนำรถและเรือมาช่วยลำเลียงคนออกจากบริเวณน้ำท่วม รวมถึงตั้งเต๊นท์และแจกอาหารและถุงยังชีพ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางทหารไม่ได้พูดถึงการมีอยู่และปัญหาของอ่างนี้แต่อย่างใด

ปดิพัทธ์ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะค่ายทหารวชิรปราการ ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจ่ายค่าชดเชยแก่ชาวบ้านที่ต้องสูญเสียญาติพี่น้องและทรัพย์สินที่สะสมมาตลอดชีวิต รวมถึงรับฟังข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่ต้องการให้ยกเลิกโครงการแนวคันดินที่เชื่อมอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่ง ทำอ่างเก็บน้ำให้ได้มาตรฐานของกรมชลประทาน และทำทางระบายน้ำในค่ายทหารผ่านท่อหรือคลองส่งน้ำให้ได้มาตรฐานและทันท่วงที และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการอย่างมากคือ การมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นของคนในพื้นที่รอบค่ายทหาร หากจะมีโครงการใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้าน
“ผม ในฐานะ ส.ส. พรรคกก้าวไกล จะนำประเด็นนี้เข้าสู่กรรมาธิการ และจะตั้งกระทู้ในสภา เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาร่วมชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง รวมถึงหาทางออก และแร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด”
ปดิพัทธ์ กล่าวทิ้งท้าย
