ไม่ควรมีใครต้องถูกดำเนินคดี! “ณธีภัสร์” รุดให้กำลังใจนักต่อสู้ LGBTQ และผู้เรียกร้อง #สมรสเท่าเทียม
แค่เพียงประชาชนออกมาชุมนุม แสดงออกถึงข้อเรียก ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองอย่างสงบและปราศจากอาวุธ แต่ทว่ากลับมีหมายเรียกส่งไปถึงบ้านถึง 20 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ หรือ “เตอร์” ส.ส.พรรคก้าวไกล ผู้ผลักดันประเด็น LGBT และการสมรสเท่าเทียม
ไม่ควรมีใครต้องถูกดำเนินคดีเพราะออกมาชุมนุม!
นี่คือสิ่งที่พรรคก้าวไกล ยืนยันหนักแน่น ซึ่งแม้เจ้าหน้าทีรัฐจะอ้างเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมโรค แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง ยิ่งในสถานการณ์ที่การจัดงานรื่นเริงต่างๆ ผู้คนเบียดเสียดแน่นเอี๊ยดกว่าการชุมนุมเสียอีก แต่ทว่าก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ ไม่มีใครถูกหมายเรียกดำเนินคดี
จึงมองเป็นอื่นไปไม่ได้เลยว่า การชุมนุมของ “ภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียม” ในช่วงเย็นของวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การดำเนินคดีผู้เข้าร่วมถึง 20 คนนั้น มีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสายของวันนี้ ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี บรรดาผู้ถูกที่ถูกหมายเรียกดังกล่าวได้เดินทางมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนของณธีภัสร์ แม้สถานการณ์ตอนนี้ตำรวจจะยกเลิกหมายเรียกแล้ว เนื่องจากเป็นการออกในระหว่างสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร หากดำเนินการต่อจะถือเป็นการล่วงละเมิดต่อบทบัญญัติของกฎหมายระดับรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นหลักการคุ้มครองความอิสระในการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ทว่าก็ยังคงเดินทางมาที่ สน.ลุมพินี เพื่อให้กำลังใจ นักต่อสู้ LGBTQ และผู้เรียกร้อง “สมรสเท่าเทียม” ทุกคน
พร้อมกันนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล สัดส่วนผู้มีความหลากหลายทางเพศ บอกด้วยว่า อยากมาให้กำลังใจผู้ถูกดำเนินคดี และเพื่อยืนยันว่าผู้ถูกตั้งข้อหาทุกคนไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธที่รับรองโดยรัฐธรรมนูญ จริงอยู่ว่า รัฐสามารถออกกฎได้แต่ไม่ใช่จำกัดจนประชาชนทำอะไรไม่ได้แบบนี้
น่าคิดออย่างหนึ่งคือ ในการชุมนุมเรียกร้องสมรสเท่าเทียมในวันดังกล่าว กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำหนังสือแจ้งไปแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่คัดค้านแต่ประการใด ภายหลังกลับมาออกหมายเรียก จึงไม่รู้เป็นหลุมพรางโดยมีเจตนาในการเล่นงานประชาชนผู้เห็นต่างหรือไม่?
แต่ไม่ว่าอย่างไร การส่งหมายเรียก ส.ส. ในระหว่างสมัยประชุม กรณีนี้ก็ต้องส่งเรื่องเข้าสู่คณะกรรมาธิการของสภาเพื่อตรวจสอบว่า การออกหมายที่ผิดรัฐธรรมนูญแบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไร เป็นความสะเพร่าไม่รู้กฎหมายของตำรวจ ทั้งที่เป็นผู้รักษากฎหมาย หรือเป็นความจงใจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
“พรรคก้าวไกลขอยืนเคียงข้างประชาชนและสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของประชาชน เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยพิจารณาไปพร้อมกันกับ ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ของพรรคก้าวไกล ที่ขณะนี้อยู่ในสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมและพรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ประชาชนสู้เพียงลำพัง”
ณธีภัสร์ หรือ “เตอร์” กล่าว