จากกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 65 ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน ได้ตั้งกระทู้ถามหาข้อเท็จจริงและมาตรการเยียวยากำลังพลที่ได้รับความสูญเสียจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มาตอบ มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มาตอบแทน
ณัฐชากล่าวเริ่มต้นว่า ข่าวเรือหลวงสุโขทัยเป็นข่าวที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศเสียใจ ตนขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และครอบครัวของกำลังพลทุกคน ครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกที่เรือรบอับปางเพราะคลื่นลมแรง ที่ผ่านมาตนได้อภิปรายความผิดพลาดของกองทัพหลายครั้ง ครั้งนี้ผู้รับผลกระทบจากความผิดพลาดคือกำลังพลของกองทัพเองและเมื่อฟังแถลงข่าวของผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พบว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย ยิ่งซ้ำเติมความรู้สึกของประชาชนที่ติดตามเหตุการณ์
ณัฐชาตั้งคำถามว่า เรือลำที่เข้าไปช่วยกำลังพลมีอุปกรณ์อะไรบ้าง เพราะสิ่งที่ตนต้องการทราบคือทางกองทัพมีความมุ่งมั่นตั้งใจจะไปช่วยกำลังพลอย่างไรบ้าง เนื่องจากสิ่งที่ พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจง มีเพียงการตอบว่าจะช่วยเหลือเครื่องจักรอย่างไรเท่านั้น
นอกจากนี้ ภารกิจที่ทำให้จำเป็นต้องออกเรือในช่วงมรสุมที่มีลมแรง คือภารกิจอะไร มีความจำเป็นแค่ไหน ใครเป็นผู้ออกหนังสือสั่งการออกไปทำภารกิจ และได้รับข้อมูลสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาหรือกรมอุทกศาสตร์ทหารเรือหรือไม่
เหตุใดยังคงส่งกำลังพลที่เป็นลูกหลานของพี่น้องคนไทยไปฝ่าคลื่นลมแรงในภารกิจนี้ และกำลังคนที่ออกไปทำภารกิจนี้เป็นทหารเกณฑ์ มีกำลังพลที่ว่ายน้ำไม่เป็นแต่ต้องไปปฏิบัติภารกิจด้วย ทำไมจึงอัดกำลังพลไปเต็มลำเรือ โดยไม่ได้ดูว่ามีอุปกรณ์เพียงพอหรือไม่
“ส่วนที่กองทัพเรืออ้างว่าออกไปปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนช่วยผู้ประสบภัย อยากถามว่าไปลาดตระเวนสิ่งใด เพราะขณะที่เรือออกไปลาดตระเวน กลับไม่มีเสื้อชูชีพเลย เรือก็ช่วยใครไม่ได้ เหตุเรืออับปางนี้ทำให้สูญเสียชีวิตกำลังพล สูญเสียขวัญกำลังใจของครอบครัว สูญเสียภาษีของพี่น้องประชาชน และสุดท้ายภารกิจที่อนุมัติให้เกิดความสูญเสียนี้ ผู้ใดต้องเป็นคนรับผิดชอบ เป็น รมว.กลาโหม หรือ ผบ.ทร”
ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ได้ชี้แจงถึงลำดับเหตุการณ์ว่าวันเกิดเหตุมีคลื่นลมแรง เรือฝ่ามรสุม ทำให้น้ำเข้าตัวเรือบางส่วน เครื่องจักรของเรือหยุดทำงาน ส่วนปฏิบัติการช่วยเหลือในวันนั้น ทุกอย่างเป็นการควบคุมสั่งการจากศูนย์อำนวยการกองทัพเรือผ่านไปยังกองทัพเรือภาคที่ 1 และเรือกระบุรี ในส่วนงบซ่อมบำรุง เนื่องจากอายุการใช้งานของเรือรบอยู่ที่ประมาณ 40 ปี การซ่อมบำรุงจึงมีทั้งซ่อมตามวงรอบปกติและการซ่อมใหญ่ โดยเรือหลวงสุโขทัยมีการซ่อมบำรุงใหญ่เมื่อปี 2561 และ 2563 เสร็จสิ้นตรวจรับเมื่อปี 2564 งบที่ได้รับเฉลี่ยปีละ 1,300 ล้านบาท และในปี 2566 ได้รับงบประมาณ 1,800 ล้านบาท
“สำหรับเหตุการณ์ที่แท้จริง ได้สั่งให้กองทัพเรือสอบสวนทุกเรื่อง ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร รวมถึงจำนวนเสื้อชูชีพที่สังคมสงสัย ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด เพื่อชี้แจงให้ทุกคนทราบโดยไม่มีการปกปิด”
พล.อ.ชัยชาญกล่าว
สุดท้าย ณัฐชาได้ตั้งคำถามกลับไปถึงรัฐบาลและกองทัพ ว่าถึงเวลาหรือยังที่ต้องปฏิรูป เพราะที่ผ่านมา กองทัพมีแต่การตรวจสอบกันเอง นายกฯ มีอำนาจล้นฟ้ามา 8 ปีเต็ม แต่ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม ขอถามว่าแม้แต่หน่วยงานที่ท่านเติบโต มา ยังบริหารให้ดีขึ้นไม่ได้เลย แล้วจะใช้เวลาอีก 2 ปีที่เหลืออยู่ บริหารประเทศให้ดีขึ้นได้อย่างไร
“ถึงเวลาหรือยังที่ต้องปฏิรูปกองทัพ ทุกคนในที่นี้ก็รักกองทัพและอยากให้ดีขึ้น เราจึงต้องทำให้กองทัพมีกระบวนการที่โปร่งใส ที่ผ่านมาตรวจสอบกันเองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สังคมก็ยังไม่ได้คำตอบ รวมถึงต้องพิจารณาเรื่องการยกเลิกบังคับคนมาเป็นทหาร ยิ่งตอนนี้กองทัพยังไม่ตอบว่ากำลังพลบนเรือหลวงสุโขทัยเป็นทหารเกณฑ์กี่นาย ว่ายน้ำไม่เป็นกี่นาย ครอบครัวเขารอคำตอบอยู่”
ณัฐชา ในฐานะผู้แทนราษฎร ตั้งคำถาม
