free geoip

#บ้านพักหลวงภาค2 – สรุป 3 ข้อกล่าวหา “ประยุทธ์” แจ้งทรัพย์สินเท็จ-หนีภาษี-รับประโยชน์จากกองทัพ




รับชมคลิปการอภิปรายได้ที่นี่ https://youtu.be/TjUC_mpXmFU











ดุเด็ดเผ็ดมันส์สไตล์ “เจ๊เจี๊ยบ” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดข้อมูลใหม่กรณีอยู่บ้านพักหลวง ทุจริต 3 ข้อชัดเจน คือ:





  1. มีพฤติกรรมปกปิดข้อมูลส่วนตัวเพื่อหนีการตรวจสอบ เข้าข่ายให้ข้อมูลเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญ
  2. ทำผิดกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับผลประโยชน์อื่นใดเกินที่กฎหมายกำหนด
  3. ทำผิดกฎหมายประมวลรัษฎากร หนีภาษี






“บิ๊กตู่” หรือ “ขี้ตู่” แจงทรัพย์สินบ้านที่อยู่ไม่ตรงกันซักรอบ สรุปแล้ว “คุณพี่อยู่บ้านเลขที่อะไรกันแน่ค๊าาาาา???”



อมรัตน์ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์มีข้อพิรุธในการปกปิดข้อมูล ที่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อปี 2557 กล่าวคือเจ้าตัวแจ้ง ป.ป.ช. ว่าอาศัยอยู่ “บ้านเลขที่ 14 ซอยร่วมมิตร ถ.ย่านพหลโยธิน สามเสนใน กรุงเทพฯ” แต่ทว่าใครๆ ก็รู้ ว่าตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ. อยู่บ้านพักในค่ายแล้ว


ต่อมา เมื่อมีคดีไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ได้ยื่นคำให้การว่าตัวเองอาศัยอยู่ “บ้านเลขที่ 253/54 กรมทหารราบที่ 1” สอดคล้องกับที่กองทัพบกให้การ แต่เมื่อกรรมาธิการ ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบไปยังการไฟฟ้านครหลวง ได้รับตอบกลับมาว่าไม่พบว่ามีบ้านเลขที่นี้อยู่ในกรมทหารราบที่ 1 !!!


แล้วตกลงว่าประยุทธ์อยู่ที่ไหนกันแน่? เรื่องนี้คนที่ให้ความกระจ่าง กลับเป็นคนที่เรานึกไม่ถึง อย่าง “วาสนา นาน่วม” นักข่าวสายทหาร ที่เขียนเล่าไว้ในหนังสือของตัวเอง “ลับลวงพราง 5 ศึกชิงอำนาจผ่าแผนปฎิบัติการเลือด” ว่า พล.อ.ประยุทธ์ แท้ที่จริงแล้วอาศัยอยู่ในเซฟเฮ้าส์เลขที่ 702 ในค่ายทหารตั้งแต่ยังเป็น ผบ.ทบ. จนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็นับเป็นเวลามากกว่าสิบปีแล้ว!


และในหนังสือดังกล่าว ยังเขียนถึงเรื่องเกี่ยวกับบ้านเซฟเฮาส์เลขที่ 702 เอาไว้อีก ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้สร้างบ้านพักหลังนี้บนเนื้อที่เกือบ 3 ไร่ ที่จะเป็นทั้งบ้านพัก ห้องประชุมใหญ่ ห้องประชุมลับ ห้องรับรอง ห้องจัดเลี้ยงวอร์รูมและเซฟเฮาส์ที่พร้อมสรรพและทันสมัย ในแบบประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมจากที่ไหนในโลกก็ได้


และยังระบุอีก ว่าที่ผ่านมา 3 ป.(ประยุทธ์ ประวิตร และป๊อก) ได้ใช้บ้านพักหลวงแห่งนี้เป็นที่ประชุมทางการเมืองมาตลอด เป็นที่ประชุมลับในช่วงวิกฤต บ้านพักหลังนี้มีการวัดระยะก่อนสร้างว่าเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ยิงไม่ถึง เป็นการสะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์มีแผนที่จะอยู่ในอำนาจยาวนานและรู้ด้วยว่าจะต้องพบเจอภารกิจใดบ้างนับจากนี้



“คฤหาสน์หลังนี้ที่สร้างขึ้นใหม่ ล้วนสร้างจากเงินภาษีอากรของเราประชาชนผู้ยากไร้ทั้งนั้น อิฐทุกก้อน กระเบื้องทุกแผ่นเป็นเงินจากภีอากรของประชาชน ถ้าสร้างจากเงินส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง ดิฉันจะไม่มีคำถามค่ะ ดิฉันขอให้ท่านเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ค่าน้ำค่าไฟของท่าน ให้ที่ประชุมแห่งนี้ฟังด้วยค่ะ นายกรัฐมนตรีที่มจากการเลือกตั้งหลายๆท่าน ไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตหรูหรา หลบซ่อนอยู่ในค่ายทหารเช่นนี้”






เซฟเฮาส์หรู 3 ไร่ ค่าไฟจะกี่หมื่นบาท!!?? นี่มันรับประโยชน์อื่นใดเกิน 3 พันบาทชัดๆ !



อมรัตน์อภิปรายต่อไป ว่าค่าไฟฟ้าและสาธารณูปโภคอื่นๆ ในคฤหาสน์ริมบึงพื้นที่ 3 ไร่ในค่ายทหารของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น มีค่าใช้จ่ายเกิน 3 พันบาทตามกฎหมาย ป.ป.ช. อย่างแน่นอน


เพราะขนาดบ้านน้อยคอยรัก ที่อยู่ของ “มาดามจัทร์โอชา” ตามเอกสารรายการหักบัญชีค่าไฟฟ้าของบ้านเลขที่ 14 ซอยร่วมมิตร ถ.ย่านพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400 ที่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินหนี้สินนักการเมืองต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่มาเป็นสิบปี ยังมีค่าไฟฟ้าเดือนละพันกว่าบาททุกเดือน! แล้วคฤหาสน์ริมน้ำพื้นที่ 3 ไร่แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเกิน 3 พันบาทแน่นอน


“คำถามต่อไปคือเฉพาะค่าไฟที่มีใบเสร็จอย่างเดียวนี่เดือนละกี่พันกี่หมื่น และค่าบำรุงรักษาดูแลอีกเดือนละเท่าไหร่? ได้ข่าวมาว่า มีชั้นจอดรถใต้ดิน และลานจอดเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย ทั้งหมดคือภาษีอากรของพวกเราประชาชนตาดำๆ ดิฉันต้องการให้ท่านเปิดเผยออกมาซักทีว่าเดือนๆ หนึ่งท่านใช้ภาษีของพวกเราไปเท่าไหร่ แล้วช่วยบอกดิฉันหน่อยได้ไหมคะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าคฤหาสน์ใหญ่โตขนาดนี้อยู่ดีไฉน มีประโยชน์อะไรถ้าอยู่แล้วลูกเด็กเล็กแดง อนาคตของชาติออกมาตะโกนไล่เป็นแสนเป็นล้านคนไม่เว้นแต่ละวัน”


ซึ่งกรณีนี้ ต้องนับได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. จากการรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดเกินกว่า 3 พันบาทอย่างชัดเจน


หนำซ้ำ พล.อ.ประยุทธ์เคยให้การไว้ต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า “การที่ข้าพเจ้ารับประโยชน์ใดๆจากหน่วยราชการคือกองทัพ เป็นไปตามที่กองทัพปฎิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ที่มีสถานภาพและคุณสมบัติเดียวกันในธุรกิจการงานปกติ กองทัพจึงอนุมัติให้ผู้ถูกร้องเข้าอาศัยในอาคารเลขที่ 253/54 และสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นในการอาศัย”



กลายเป็นใบเสร็จมัดตัว พล.อ.ประยุทธ์ไว้แน่นชนิดดิ้นไม่หลุดในทุกข้อกล่าวหา เป็นการยอมรับออกมาอย่างเปิดเผย ว่าได้รับผลประโยชน์อื่นใดเกิน 3 พันบาทจากกองทัพจริงๆ เป็นการทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปี 2561 ในมาตรา 128 คือ ”ห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐทุกตำแหน่ง และที่พ้นตำแหน่งมาแล้วไม่เกิน 2 ปี รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้เกิน 3,000 บาท” โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษตาม มาตรา 169 คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!


“บุคคลต้องเสมอภาคเท่าเทียมกันต่อหน้ากฎหมายค่ะ ยกเว้นท่านจะไม่ใช่บุคคล ลองคิดอย่างโง่ๆ สมมติถ้ามนุษย์มีแค่ 84,000 เซลล์สมองจริงอย่างที่ท่านเคยว่าไว้ ก็มีเหลือทางเดียวที่จะรอดได้ นั่นคือต้องใช้อำนาจ ม.44 กลับไปแก้กฎหมาย ป.ป.ช. ค่ะ แต่จะแก้อย่างไรในตอนนี้ที่ไม่มีอำนาจ ม.44 อีกแล้ว นับจากวันพ้นสภาพลูกจ้างกองทัพ มาเป็นลูกจ้างประชาชน ท่านต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของเดียวกับนักการเมืองทุกคน ท่านรับประโยชน์อื่นใดจากกองทัพเกิน 3 พันบาท รวม 76 กรรม 76 กระทง กระทงละ 3 ปีมีโทษจำคุกรวม 228 ปี ลาออกตอนนี้เลยไหมคะ? พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ต้องให้อภิปรายข้อกล่าวหาต่อไปดีไหมคะ? ดิฉันอายแทนท่าน”







ช่วงนี้คุณยื่นแบบภาษี ภงด. กันหรือยัง? ที่แน่ๆ เราไม่เห็นประยุทธ์ยื่นมา 6 ปีแล้ว ทั้งที่อยู่บ้านหลวง-น้ำ-ไฟฟรีต้องนับเป็นรายได้พึงประเมิน


สำหรับข้อกล่าวหาสุดท้าย อมรัตน์ชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 50 และทำผิดประมวลรัษฎากรอย่างไรบ้าง โดยย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มีความผิดเพราะไปรับประโยชน์ค่าไฟฟ้าจากกองทัพ แต่ผิดเพราะ พล.อ.ประยุทธ์รับแล้วไม่ไปยื่นเสียภาษี ภงด.90 ต่างหาก และยังทำผิดแบบนี้มา 6 ปีแล้วนับตั้งแต่เกษียณจากกองทัพ


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 พล.อ.ประยุทธ์เคยยื่นแบบแสดงเงินได้ตาม ภงด.90 และยังได้นำมากรอกแสดงไว้ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อเดือนกันยายน 2557 ด้วย ทำให้เห็นว่า ณ ปีสุดท้ายที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังรับราชการในกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์แจ้งเฉพาะรายได้ประจำ คือเงินเดือนในตำแหน่ง ผบ.ทบ. กรอกไว้ในช่องเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง 1,403,174 บาท ซึ่งก็ตกเดือนละ 116,931 บาท อันนี้สมเหตุสมผลเพราะยังไม่ได้ย้ายไปคฤหาสน์ริมน้ำ 3 ไร่


แต่ปีถัดจากวันที่ พล.อ.ประยุทธ์เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นมา หรือนับจากปีที่ พล.อ.ประยุทธ์รับเงินเดือนจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา ยังไม่เคยมีใครได้เห็นแบบ ภงด.90 ของ พล.อ.ประยุทธ์อีกเลย




ราวกับว่าไม่ได้ยื่นแบบภาษี ภงด.90 มา 6 ปีแล้ว!!!



ทั้งๆ ที่หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นมา กองทัพกลายเป็นคนอื่นสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว การยื่นภาษีในปีต่อจากนั้นจะต้องเอาผลประโยชน์ที่ได้รับจากกองทัพ ทั้งค่าน้ำค่าไฟค่าอื่นๆ มารวมเป็นรายได้ประจำใน (1) ในแบบ ภงด.90


“ในระหว่างที่ยังเป็นทหารถือเป็นลูกจ้างของกองทัพ จะอ้างกฎหมายหรือจะอ้างกฎเกณฑ์หยุมหยิมระเบียบราชการกองทัพอะไรก็ว่ากันไปดิฉันไม่ยุ่งด้วยค่ะ แต่เมื่อเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นนายก มาเป็นนักการเมือง ค่าไฟฟ้าที่ได้รับจากกองทัพถือเป็นเงินได้พึงประเมิน เข้าลักษณะพึงเสียภาษีตามประมวลรัษฎากรมาตรา 39, 49 ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาตาม ภงด.90 ขอย้ำว่าผลประโยชน์ที่ได้จากกองทัพหลังพ้นสภาพลูกจ้างกองทัพนี้ไม่เข้าข่ายได้ยกเว้น ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42 แต่อย่างใด จึงไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ค่ะ”


เพราะแม้แต่ลูกจ้างโรงงาน ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนงานห้องเล็กๆที่นายจ้างจัดหาให้ ยังต้องนำประโยชน์จากการได้อยู่บ้านพักฟรี ค่าน้ำค่าไฟฟรีจากนายจ้าง ไปรวมเป็นรายได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้เคยมีคำสั่งกรมสรรพากร และคำพิพากษาศาลฎีกาออกมาชี้แล้ว คือคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.23/2533 ลูกจ้างต้องคำนวณผลประโยชน์จากการอยู่ฟรีเป็นรายได้พึงประเมินในอัตราร้อยละ 20 ของรายได้จากเงินเดือนตลอดทั้งปี และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2536 ให้ถือค่าน้ำ ค่าไฟฟ่า ค่าแก๊ส ที่ได้จากการอาศัยในบ้านที่นายจ้างให้อยู่ เป็นเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากรมาตรา 39, 40 ต้องนำไปคำนวณเพื่อยื่นเสียภาษี ภงด. 90, 91 ด้วย



ดังนั้น ค่าไฟฟ้าและน้ำประปาเดือนละหลายหมื่นบาทที่กองทัพบกจ่ายให้ พล.อ.ประยุทธ์ทุกเดือน จะต้องนำไปเป็นรายได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีตาม ภงด. 90, 91 ด้วย



“สาวโรงงาน คนตัวเล็กตัวน้อยได้สวัสดิการจากนายจ้างเล็กๆ น้อยๆ ยังเอามาคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่มีทางหลบหนี ท่านอายคนตัวเล็กตัวน้อยพวกนี้บ้างหรือไม่คะ? ที่หนีภาษีมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานับจากเกษียณอายุราชการจากกองทัพ คุณยายวัยชราหลายร้อยคนกำลังถูกรัฐบาลไล่บี้ตั้งข้อหารับเงินซ้ำซ้อนระหว่างเบี้ยคนสูงอายุเดือนละไม่กี่ร้อย ไปซ้ำซ้อนกับรับมรดกเงินบำนาญจากลูกชายที่ไปตายในหน้าที่ ถูกเรียกเงินคืนย้อนหลังแต่ละคนเป็นสิบปี โดยให้ผ่อนคืนพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งพอเป็นข่าวดังขึ้นมาได้ข่าวว่ากำลังคิดหาทางแก้ไข ยายวัยชราในข่าวนี้อยู่โคราชต้องขึ้นศาลแขวงที่โคราช บอกว่าไม่มีปัญญาหามาคืนยอมติดคุกค่ะ ไม่หนีไปไหน แต่นายกที่รับเงินซ้ำซ้อนไม่รู้กี่ตำแหน่งทั้งเงินเดือน ทั้งหัวหน้า คสช. เงินเดือนนายก เบี้ยบำนาญจากกองทัพ เบี้ยประชุมอีกไม่รู้กี่ตำแหน่ง เดือนหนึ่งรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท ปีหนึ่งไม่รู้กี่ล้าน นี่นับเฉพาะที่ได้เปิดเผยบนโต๊ะ ยังไม่รวมอย่างอื่น ถามว่าท่านอายสาวโรงงาน อายลูกจ้างบริษัท อายหญิงชราผู้ยากไร้บ้างหรือไม่คะ ที่ทุจริตต่อหน้าที่ทำผิดรัฐธรรมนูญ ทำผิดกฎหมายประมวลรัษฎากรแบบนี้”








บทสรุป 3 ความผิด พล.อ.ประยุทธ์กรณีบ้านพัก(คฤหาสน์เซฟเฮาส์) หลวง


(1) การไม่แสดงรายการเกี่ยวกับบ้านพักในค่ายทหาร ถือเป็นความผิดจงใจยื่นแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตาม พรป. ป.ป.ช. มาตรา 114 และมีโทษตามมาตรา 167


2) การหนีภาษี มีความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 และความผิดตามประมวลรัษฎากร หลังเกษียณแล้วการไม่นำผลประโยชน์อื่นใด คือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่ได้จากกองทัพไปรวมเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษี มีความผิดอาญาตามปีปฏิทินที่ยื่นภาษี ผิดกฎหมายอาญา ทุจริตต่อหน้าที่ฐานหลบหนีภาษี ตามมาตรา 37 ทวิ ผิดปีละ 1 กระทง จำนวน 6 ปี พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม


3) การรับประโยชน์ค่าไฟฟ้าเกิน 3 พันบาทในทุกเดือน ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2561 มาตรา 128 มีโทษตามมาตรา 169 จำคุกไม่เกินกระทงละ 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท คิดเป็นโทษจำคุก 76 กระทง รวมทั้งสิ้น 228 ปี เป็นไปตามบรรทัดฐานที่ ป.ป.ช.ได้เคยชี้มูลไว้แล้ว มีความผิดเรียงเป็นรายกระทง 76 กระทง นับจากวันที่ท่านเกษียณอายุราชการในปี 2557


โดยเมื่อเสร็จสิ้นการอภิปราย จะได้นำเอาข้อมูลเหล่านี้ ไปยื่นเอาผิดเพื่อจัดการกับท่านตามกฎหมายต่อไป รวมถึงการให้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 ในข้อ 9 และข้อ 27 ด้วย


โปรดติดตามกันต่อไป


#บ้านพักหลวงภาค2


Login

สินค้าลอตใหม่จะทยอยเข้าตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป สามารถสอบถามก่อนได้ที่โทร 02 8215874 (10.00-18.00 น. จ-ศ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า