ปิยบุตร แสงกนกกุล
ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล
ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ
มวลชนอันไพศาลดุจดังผนังทองแดงกำแพงเหล็กของพรรคก้าวไกล
หัวคะแนนธรรมชาติของพรรคก้าวไกลทุกท่าน
ที่แห่งนี้ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว วันที่ 22 มีนาคม 2562 ผมมายืนอยู่ที่นี่ที่เดียวกันนี้ ในฐานะเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ 4 ปีผ่านไปเปลี่ยนบทบาทวันนี้ผมมายืนที่นี่อีกครั้งในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล
การทำงานของสมองมนุษย์จะเรียกเอาความทรงจำในอดีตกลับขึ้นมาทุกครั้ง เพื่อใช้ตัดสินใจอนาคต ทำให้อดีตของเราทุกคนกลายมาเป็น “กรงขังของอดีต” มาครอบงำอนาคตโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นว่ามนุษย์แต่ละคนจะตัดสินใจเรื่องในอนาคตอย่างไร เรากลับเอาอดีตมาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจด้วย
พรรคก้าวไกลต้องการทลายกรงขังของอดีตนี้เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตใหม่ ด้วยความเชื่อที่ว่ามนุษย์เป็นผู้ทรงอำนาจ มีศักยภาพ ในการกำหนดอนาคตใหม่ร่วมกัน โดยไม่ต้องทำซ้ำ ทำย้ำแบบอดีต
การเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้จะเป็นการปะทะกันระหว่างอดีตกับอนาคต
กลุ่มคนที่ครองอำนาจอยู่ปัจจุบันเขาพยายามจะให้เราอยู่กับอดีต อดีตอันเป็นวันชื่นคืนสุขของพวกเขา แต่พวกเราจะยืนยันว่าเราจะเดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่
วันที่ 14 พฤษภาคมนี้จะเป็นวันสำคัญให้เราต้องชี้ชะตา ต้องเลือกว่าเราจะเอาอดีตหรือจะเอาอนาคต
อดีตที่การเมืองไทยวนเวียนอยู่ในวงจรรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือ อนาคตที่จะเอาคนทำรัฐประหารมาดำเนินคดีเข้าคุก ตัดวงจรรัฐประหารออกไป
อดีตที่เมื่อไรก็ตามประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศออกมาใช้เสรีภาพต่อต้านรัฐบาลแล้วถูกยิงทิ้ง ถูกฆ่าตาย จับกุมคุมขังโดยไม่มีคนใดต้องรับผิดชอบ กับ อนาคตที่ต่อไปนี้ความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ได้หมายความว่าต้องติดคุกต้องถูกฆ่าตาย เพราะเรายอมรับความแตกต่างหลากหลายในทุกความคิด
อดีตที่มีพรรคการเมืองเสมือนกับเป็นมุ้ง มุ้งแต่ละมุ้งมารวมกันเป็นพรรค เอานักการเมืองแต่ละคนมารวมกันเพื่อเข้าไปชิงตำแหน่ง ส.ส. เสร็จแล้วก็เอาเก้าอี้ ส.ส. ไปต่อรองแลกตำแหน่งรัฐมนตรี กับ อนาคตที่พรรคการเมืองรวมตัวกันโดยพี่น้องประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เป็นของประชาชนทุกคน ไม่เป็นหนี้บุญคุณใครนอกจากประชาชนเท่านั้น
อดีตที่คนที่อยากเป็นนักการเมือง จำเป็นต้องเติบโตมาในบ้านใหญ่ๆ ต้องมีเงินมีทอง ต้องเติบโตมาในตระกูลการเมือง กับ อนาคตที่ทุกๆ คนฝันที่จะเป็น ส.ส. ได้ คนธรรมดาอย่างเราๆ เป็น ส.ส. ได้
อดีตที่ออกแบบนโยบายทางเศรษฐกิจ โดยคิดถึงอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แล้วหวังว่าเค้กก้อนใหญ่ขึ้นแล้วตกลงมาถึงท้องของประชาชนคนธรรมดาบ้าง กับ อนาคตที่มองคนเป็นคนเท่าเทียมกันจัดสรรทรัพยากรงบประมาณไปสู่ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ อนาคตที่มองคนเป็นคนที่ลงทุนกับมนุษย์ ไม่มองมนุษย์เป็นเครื่องจักรปั่นตัวเลขทางเศรษฐกิจ
อดีตที่แก้ไขปัญหาของประเทศไทยชนิดแบบกินยาแก้ปวดหัว กินที่ละเม็ด เมื่อหายแล้ว วันหนึ่งก็กลับมาปวดใหม่ ก็กินยาใหม่อีก ซ้ำไปซ้ำมา กับ อนาคตที่ต้องการแก้ปัญหาทางโครงสร้างที่ต้นตอ แก้ปัญหาปรับความสัมพันธ์โครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจใหม่ ผ่าตัดชีวิตประเทศไทยใหม่ให้กลับมาสมบูรณ์
นี่คือการเลือกระหว่างอดีตกับอนาคต
คนที่ครองอำนาจอยู่และคนที่เคยครองอำนาจมาแล้วและอยากจะกลับมาครองอำนาจใหม่ ต่างก็พยายามจะพาสังคมไทยไปสู่อดีต พวกเขาพยายามหยุดเข็มนาฬิกาและดันเข็มย้อนกลับไปเมื่อทศวรรษ 2520 เมื่อทศวรรษ 2540 แต่สุดท้ายเข็มนาฬิกานี้จะต้องเดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ที่พวกเรากำหนดกันเอง
หมดเวลาเอาความสำเร็จในอดีต ความทรงจำในอดีตมากักขังอนาคตของประเทศไทย
พี่น้องครับ ในช่วงเวลานี้พรรคก้าวไกลเดินทางไปทั่วประเทศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก ตะวันออกเฉียงเหนือจนถึงภาคกลาง
จากสามย่านมิตรทาวน์ ไปห้าแยกลาดพร้าวไปเซ็นทรัลพระรามสอง
จากเชียงรายไปเชียงใหม่ ผ่านพิษณุโลก นครสวรรค์ มาที่อยุธยา
จากบึงกาฬ อุดรธานี ผ่านสกลนคร ผ่านขอนแก่นเข้ามาที่สระบุรี
จากอุบลราชธานี ผ่านศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ โคราช เข้ามาที่ปทุมธานี
จากนราธิวาส ยะลา ปัตตานี ผ่านนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ และมาจบที่สมุทรสาคร
ทุกเส้นทางของคาราวานก้าวไกลทั่วประเทศไทย แต่ละเส้นทางที่พวกเราผ่าน แต่ละเวทีที่เราได้ไปปราศรัย ได้พบปะกับพี่น้องประชาชน สายตาของพี่น้องประชาชนที่มองมาที่พวกเรามีแต่ความหวัง มีแต่กำลังใจ
ทุกครั้งที่เราพบปะพี่น้องประชาชน แต่ละท่านก็ฝากความหวังไว้ มีแต่ความหวัง มีแต่กำลังใจ นี่คือการเมืองแห่งความหวัง หวังว่ายานพาหนะที่ชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะนำพาความฝันความหวังของทุกคนเข้าไปมีอำนาจรัฐและลงมือทำเปลี่ยนแปลงมัน
และด้วยความหวังที่แพร่กระจายไปทั่วเช่นนี้เอง ดุจดั่งปรากฎการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่งทั่วประเทศ
นี่คือสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง
นี่คือเมล็ดพันธ์แห่งความคาดหวัง
นี่คือปรากฎการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้กลุ่มคนที่ครองอำนาจ กลุ่มคนที่อยู่กับอดีต พยายามหยุดพวกเรา
เขาเริ่มเกิดความกลัว เกิดความไม่สบายใจว่าสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นแล้ว เขาตื่นตระหนกตกใจตั้งรับไม่ทัน จึงเกิดเป็นความกลัว แล้วเอาความกลัวนั้นมาทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะหยุดยั้งความหวังของพี่น้องประชาชน
เขาใช้ความกลัววาดภาพให้พวกเราเป็นปีศาจ วาดภาพให้พวกเราเป็นพวกยุยงปลุกปั่น วาดภาพพวกเราให้เป็นพวกสุดโต่งชังชาติ
เขาใช้ความกลัวปล่อยข่าวสารอันเป็นเท็จ ใช้ความกลัวปิดเบือนข้อเสนอของพรรคก้าวไกล
เขาใช้ความกลัวมาทำลายความฝันความหวังของพี่น้องประชาชน โดยบอกว่าสิ่งที่เราหวังเป็นไปไม่ได้ในประเทศนี้
เขาใช้ความกลัวเพื่อมาบอกว่าสิ่งที่เราคิด เราหวัง ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
ความกลัวกับความหวังเป็นห้วงอารมณ์ของมนุษย์ ห้วงอารมณ์ทั้งสองแบบนี้ มีพลังมหาศาลในการขับดันพวกเราให้ออกไปต่อสู้
แต่แตกต่างกันตรงที่ความกลัวผลักดันให้มนุษย์ออกไปสู้เพื่อทำลายล้างผู้อื่น ส่วนความหวังจะกระตุ้นผลักดันพวกเราให้ออกไปเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ความกลัวจะผลักดันให้เราเข้าไปสู่โลกมืด แต่ความหวังจะผลักดันให้เราไปสู่แสงสว่าง สู่อนาคตแบบใหม่
การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นการต่อสู้กันระหว่างความกลัวกับความหวัง
เขากลัวว่าสังคมแบบใหม่จะทำให้พวกเขาไม่ได้ผูกขาดอำนาจอย่างที่เคยเป็นมา
เขากลัวว่าเดี๋ยวเขาจะหลุดออกจากอำนาจ ถูกดำเนินคดีย้อนหลัง
เขากลัวว่าสังคมแบบใหม่ขึ้นมา เขาจะตั้งรับไม่ทัน เขาจะปรับตัวไม่ได้
ขณะเดียวกันความหวังของพวกเราเรียกร้องว่าเราต้องทำสังคมไทยให้ดีขึ้น เพื่อคนทุกคนเพศ ทุกวัย ทุกความคิด อยู่ร่วมกับได้อย่างสันติ
หัวจิตหัวใจของความหวังกว้างขวางมหึมามากกว่าความกลัว ความหวังพร้อมจะยอมรับกลุ่มคนที่มีความคิดอนุรักษ์นิยม แต่ความกลัวจะไม่ยอมให้พวกเราได้เผยแพร่ความคิดแบบก้าวหน้า
เขายังกลัวอีกว่าถ้าวันนี้เขาไม่แลนด์สไลด์ เขาจะไม่ได้กลับมามีอำนาจอีก แต่สำหรับพวกเรา เรามีความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปด้วยกัน
ความกลัวกำลังจะบอกเราว่าให้หยุดที่การเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีกับเปลี่ยนรัฐบาลก็พอแล้ว แต่ความหวังกระตุ้นเตือนพวกเราว่าเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนรัฐบาลไม่พอ ต้องเปลี่ยนประเทศไทยด้วย
มีอุปมานิทัศน์เรื่องถ้ำของเพลโต ปรัชญาเมธีกรีกเล่าเอาไว้ว่ามีนักโทษถูกใช้ตรวนตรึง แขน ขา คอ นั่งเรียงกันอยู่ในถ้ำ ขยับคอ ตัวเคลื่อนไหวไม่ได้ สายตาของพวกเขามองไปได้แต่ข้างหน้าอย่างเดียวและเบื้องหน้าของเขามีผนังถ้ำที่ปรากฎเงาของมนุษย์เคลื่อนไหวไปมาอยู่
ในความรับรู้ของพวกเขามีเพียงแค่เงาของคนบนผนังถ้ำเท่านั้น จนวันหนึ่งมีคนไปปลดโซ่ตรวนและพาพวกเขาออกมานอกถ้ำ วันแรกที่ออกจากถ้ำเขาเจอแสงอาทิตย์ทิ่มแทงเข้าตาจนปวดแสบปวดร้อนมาก เขาออกไปเห็นว่าชีวิตนอกถ้ำมีมนุษย์จริงๆ อยู่ เขาตกใจว่าโลกที่เขาเห็นมาทั้งชีวิตในเงานั้นไม่ใช่ความจริง เขากำลังเผชิญหน้ากับความจริง แน่นอนว่าช่วงแรกนักโทษเหล่านี้จะแสบตา ตกใจปรับตัวไม่ได้ แต่เมื่อไรก็ตามที่เขาตั้งสติได้ว่าความจริงเป็นอย่างไร เขาจะตื่นรู้ขึ้นมาและสามารถปรับตัวกับโลกใบใหม่ได้
ในช่วงเวลาแบบนี้ที่ความกลัวกำลังปะทะกับความหวัง ที่สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังพัดพาเข้ามาอย่างเต็มที่นั้น ผมขอใช้เวทีนี้สื่อสารไปถึงคนทุกช่วงวัย
เยาวชนคนรุ่นใหม่ขอให้ทุกคนจงมีความหวังต่อไป อย่าท้อแท้ อย่าท้อถอย เยาวชนคนหนุ่มสาวจะต้องอยู่ในโลกนี้ไปอีกนาน พวกเรามีความชอบธรรมสูงสุดในการกำหนดอนาคตของประเทศไทยด้วยตัวเอง
อดทน อดทนด้วยความหวัง ลงมือทำด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ อย่าเพิ่งหนีออกจากประเทศไทยไป เชื่อมั่นว่าอยู่ที่นี่ ทำที่นี่ เปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกันครับ
สำหรับคนรุ่นผมที่เริ่มสร้างครอบครัวมีบุตรหลานเข้าสู่วัยเรียน ผมอยากสื่อสารว่าชีวิตแต่ละคนจะมีคุณค่าได้ ต้องมีคุณค่าในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น ออกจากพื้นที่อันปลอดภัยของตนเอง แล้วกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมร่วมกัน เราจะทนส่งมอบสังคมแบบนี้ให้กับลูกหลานของเราในรุ่นถัดไปไม่ได้ คนรุ่นผมอยากทำมาหากินมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี อยากมีเงินทองมาเลี้ยงครอบครัว อยากเป็นเศรษฐีมีชีวิตสุขสบาย แต่เราจะมีชีวิตสุขสบายได้อย่างไร ถ้าในรอบตัวเราในสังคมไทยยังมีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงอยู่แบบนี้ คนรุ่นผมที่หวังประสบความสำเร็จใจหน้าที่การงาน เราจะปล่อยให้สังคมที่คนจนจนต่ำเตี้ยติดดิน คนรวยรวยล้นฟ้าจนนับเงินไม่หวาดไม่ไหวอย่างนี้ต่อไปได้อย่างไร เราจะปล่อยให้เยาวชนลูกหลานของเรายังต้องอยู่ในวงจรรัฐประหารต่อไปได้อย่างไร ออกมาจากพื้นที่อันสะดวกแล้วตัดสินใจลงมือทำ เปลี่ยนแปลงสังคมไทยไปด้วยกันครับ
สำหรับคนรุ่นก่อนผม รุ่นคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คนรุ่นก่อนผมที่ผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แล้ววันนี้รู้สึกว่าตนเองประสบความพ่ายแพ้ รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองคิดฝันเป็นไปไม่ได้แล้วในสังคมไทย ตัดสินใจยกธงขาวยอมแพ้ สำหรับคนที่เคยประสบการณ์เหล่านี้ผมอยากสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาว่าเมื่อวันที่พวกท่านอยู่ในวัยหนุ่มสาวท่านก็มีความฝันอยากเห็นสังคมใหม่ อยากเห็นโลกใหม่ แล้ววันนี้สังคมใหม่ โลกใหม่ สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นแล้ว พวกท่านจะหยุดมันทำไมครับ
สิ่งที่ท่านคิดท่านฝันเมื่อ 40 ปีที่แล้ว กำลังกลับมาให้เห็นอยู่ตรงหน้า แล้วจะหยุดยั้งมันทำไม มาร่วมกันทำความฝันเหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริง อย่าคิดแต่เพียงว่านี่เป็นเรื่องเพ้อฝันและความฝันอยู่ได้แค่ยอดต้นมะพร้าว ไม่จริงครับ เราจะเปลี่ยนแปลงโลกใหม่ไปด้วยกัน
สำหรับคนรุ่นก่อนผม รุ่นคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ที่กำลังตกใจว่าโลกและสังคมกำลังจะเปลี่ยน ผมอยากให้ท่านใช้ช่วงเวลาสุดท้าย ตามกฎธรรมชาติที่ช่วงเวลาชีวิตเหลืออยู่ไม่กี่ปี ลองเอาช่วงเวลานี้มาทำความเข้าอกเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลง กับความหวังความฝันแบบใหม่ของเยาวชนคนหนุ่มสาวดูไหม แล้วหาทางปรับที่ทางให้อยู่ร่วมกันได้ แล้วสร้างสังคมนี้ส่งต่อให้กับลูกหลานของพวกเรา
พี่น้องที่รักทุกท่าน ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ปรากฏการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่งทั่วประเทศตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ปรากฎการณ์ ณ ที่แห่งนี้เมื่อสี่ปีที่แล้ว มาถึงปรากฎการณ์ที่พรรคอนาคตใหม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งปี 2562 จนกระทั่งถูกยุบพรรค เกิดการเรียกร้องของประชาชนคนหนุ่มสาวทั่วประเทศ หรือย้อนหลังไปสู่การต่อสู้ทางการเมืองตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 มาสู่ 6 ตุลาคม 2519 มาถึงพฤษภาคม 2535 พฤษภาคม 2553 จนมาถึงการเรียกร้องของเยาวชนในปี 2563 ถึง 2565 ย้อนกลับไปถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคนกลุ่มหนึ่งที่ชื่อ คณะราษฏรในปี 2475 ผ่านมาจนถึงวันนี้ ผ่านปรากฎการณ์ก้าวไกลไฟลามทุ่งตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้คือสายธารแห่งการต่อสู้
มนุษย์แตกต่างจากสัตว์เพราะมนุษย์มีสมอง มีความคิด ที่อยากจะพัฒนาตนเองไปให้ไกลกว่าเดิม มนุษย์อยากจะไปสู่จุดที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม ดังนั้นทุกวัฏจักรของการต่อสู้จะนำมาซึ่งความก้าวหน้าอยู่เสมอ และความก้าวหน้าที่เราร่วมกันต่อสู้มาตั้งแต่ 2475 ผ่านปี 2516 2519 2535 2553 ถึง 2563 จนมาถึงวันนี้ ดอกผลของการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นแล้ว เมล็ดพันธุ์ของการเปลี่ยนแปลงได้ถูกหว่านไปทั่วประเทศไทยแล้ว
ดังนั้น 14 พฤษภาคมนี้เป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดอย่างยิ่งที่พวกเราจะใช้อำนาจสูงสุดในการชี้ชะตาอนาคตสังคมไทย
พี่น้องครับ เสียงระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงดังอุโฆษอยู่หน้าประตูบ้านทุกท่านแล้ว จงรีบหยิบฉวยโอกาสเหล่านี้มาลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยกัน ถ้าหากเราทิ้งโอกาสนี้ไป เราอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิต
ทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนมีคุณค่า มีความหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้มาก
ทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องให้กับพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำให้แค่ ส.ส. บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่อีกบัตรอีกใบที่พี่น้องไปกา ส.ส. เขต มีความสำคัญยิ่ง เพราะว่าพรรคก้าวไกลมีผู้สมัคร ส.ส. ที่ไม่มีระบบคะแนนจัดตั้งหรือกลไลเครือข่ายอุปถัมภ์ในพื้นที่ ดังนั้นการต่อสู้แข่งขันในการเลือกตั้งของพวกเรา ผมเชื่อเหลือเกินว่าเวลาจะชนะกันในแต่ละเขตเลือกตั้งคะแนนจะเบียดกันสู้สีมาก ดังนั้นพี่น้องที่แบ่งใจไปให้ทื่อื่นๆ ไม่กาให้ก้าวไกล ก็มีโอกาสที่ ส.ส. เขตจะสอบตกได้ นี่คือความสำคัญของทุกคะแนนเสียง มีคุณค่ามากมายมหาศาลที่จะกำหนดว่าเราจะได้ผู้แทนราษฎรแบบพรรคก้าวไกลได้หรือไม่
และนอกจากคะแนนที่ให้บัญชีรายชื่อและ ส.ส. เขตแล้ว คะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่กาให้พรรคก้าวไกล หากเกิน 10 ล้าน 11 ล้าน 12 ล้าน นั่นหมายความว่าคนไทย 30-40% สนับสนุนพรรคก้าวไกล แม้ว่าพวกเราจะถูกกระทำย่ำยีมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ ถูกเหยียบกระทืบให้จมดิน ถูกย่ำยีบีฑา แต่ถึงเวลาผู้คนก็ยังพร้อมใจกันออกมาสนับสนุนพรรคก้าวไกลมากกว่าเดิม
ที่สำคัญที่สุดคะแนนเสียงทั่วประเทศคือสัญลักษณ์ว่าคนเหล่านี้อยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทยแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้คือตัวแทนของพลังแบบใหม่ที่จะทำให้พลังแบบเก่าล้มระแนระนาดไป
ย้ำอีกครั้ง ระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงดังอุโฆษอยู่หน้าประตูบ้านทุกท่านแล้ว จงหยิบฉวยมันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลง ถ้าเรามีโอกาสที่ดีที่สุด ที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงหน้าพวกเราแล้ว เราไม่ใช้มัน เราจะเสียใจไปตลอดชีวิต
14 พฤษภาคมนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือร่วมใจกันไปกากบาทพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
14 พฤษภาคมนี้ เข้าไปกาก้าวไกลให้ถล่มทลาย เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม
14 พฤษภาคมนี้ เข้าไปกาก้าวไกลเพื่อหยุดอดีต เดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่
14 พฤษภาคมนี้ คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน
ขออนุญาต ขออนุญาต ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน
และก้าวไกลทั้งแผ่นดินจะสำเร็จได้ต้องมีผู้ชายคนนี้ ชายชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
