ในแค่ 4 เดือนแรกของปี 2567
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังเป็นเรื่องเล็ก?
ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 24 เมษายนที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคเปิดสถิติล่าสุดของคนไทยที่เสียชีวิตจากโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก ที่มีจำนวนมากถึง 30 คนเข้าไปแล้ว ในขณะที่ทั้งปี 2566 สถิติอยู่ที่ 37 คน
ลมแดด (Heat Stroke)
โรคนี้เป็นอาการป่วยที่รุนแรงที่สุดจากอากาศร้อน อุณหภูมิร่างกายจะสูงถึง 40º C (104º F) หรือสูงกว่า ในขณะที่อุณหภูมิปกติของคนเราอยู่ที่ 37º C และจำเป็นมากที่จะต้องได้รับการรักษาให้เร็วที่สุด
ฮีทสโตรกเกิดขึ้นได้ใน 2 รูปแบบ คือ Non-exertional Heat Stroke (NEHS) ไม่มีเหตุกระตุ้นอื่นนอกจากอยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนเกินไป ร่างกายมีบางภาวะที่จัดการกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิไม่ได้ และ Exertional Heat Stroke เกิดได้จากการออกกำลังกายที่มากจนเกินความต้านทานของร่างกาย
จากอาการเริ่มต้นที่ตัวร้อนจัด ผิวหนังร้อนแดงและแห้ง หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน บวกกับอาจมีสภาวะทางจิต เช่น กระสับกระส่าย หงุดหงิด เพ้อ ไปจนถึงขั้นชักและโคม่า (ไม่รู้สึกตัวนานกว่า 6 ชั่วโมง ไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น แสง เสียง)
และที่อันตรายที่สุด คือ ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่ออวัยวะต่างๆ จากการที่อุณหภูมิร่างกายสูงอยู่เป็นเวลานานโดยไม่มีการดูแลรักษาในทันที
- สมอง ความร้อนต่อเนื่องทำให้ชัก สมองบวม เซลล์ประสาทอาจถูกทำลายอย่างถาวร
- กล้ามเนื้อ เกิดการสลายของกล้ามเนื้อโครงร่าง (Rhabdomyolysis)
- ไต สืบเนื่องจากการสลายของกล้ามเนื้อโครงร่าง เกิดการปล่อยสารเข้าสู่กระแสเลือด ไตจะเกิดการบาดเจ็บเฉียบพลัน
- ตับ เมื่อขาดน้ำในร่างกายจากความร้อนสูง น้ำและเลือดไปเลี้ยงตับไม่พอ ตับจะเกิดการผิดปกติเฉียบพลัน
- หัวใจ เกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะไปจนถึงหัวใจล้มเหลวจากการบีบตัวหนักเกินกำลัง
- ปอด บาดเจ็บร้ายแรงจากอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน ทำให้ออกซิเจนในเลือดต่ำ
- เลือด เกิดภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
คุณจะมีความเสี่ยงฮีทสโตรกมากขึ้นอีก ถ้า
- คุณเป็นเด็ก หรือ ผู้สูงอายุ ซึ่งจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิร่างกายได้ไม่ค่อยดี มีปัญหากับการคงความชุ่มชื้นในร่างกาย
- โรคเรื้อรัง หลักๆ คือโรคหัวใจและโรคปอด โรคอ้วน และการมีนิสัยไม่ออกกำลังกายอยู่แล้ว
- คุณกินยาบางชนิดเป็นประจำ ยาที่มีผลกับการที่ร่างกายจะตอบสนองความร้อนอย่างเหมาะสม รวมทั้งรักษาความชุ่มชื้น เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาขยายหลอดเลือด รวมทั้งยาต้านเศร้า และยาทางจิตเวชอื่นๆ
*รวมผู้เสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และยาเสพติดบางชนิด เช่น แอมเฟตตามีน โคเคน - อากาศร้อนขึ้นอย่างกะทันหัน เช่น การเกิดคลื่นความร้อนอย่างที่เพิ่งผ่านมา
เมื่อเราเมินโลกร้อน โลกก็เดือด!
กลางปี 2566 อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ประกาศว่ายุคโลกร้อน (Global Warming) สิ้นสุดลงแล้ว และพวกเรากำลังเข้าสู่ยุคโลกเดือด (Global Boiling)
ในประเทศกำลังพัฒนาที่เสมือนตลอดกาลอย่างประเทศไทย สิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศยังไม่เคยได้เบียดขึ้นมาเป็นประเด็นหลัก หรืออย่างน้อย หนึ่งในประเด็นหลัก เพราะเรามีเรื่องเฉพาะหน้าเร่งด่วนอีกมหาศาลให้จัดการ ทั้งค่าแรงต่ำ คนเดียวทำงานเลี้ยงปากท้องทั้งบ้าน สังคมไทยที่กลายเป็นสังคมผู้สูงอายุไปเรียบร้อยแล้ว สวัสดิการที่มีอยู่ก็น้อยนิดแค่พอให้ประชาชนสูงวัยที่ทำงานมาทั้งชีวิตมีกินแค่ไข่ต้มมื้อละฟอง พลังงาน-ไฟฟ้าแพงทั้งๆ ที่ไม่ควรแพงถึงขนาดนี้ ท่ามกลางขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ดีพอ และหลายพื้นที่ก็คือไม่มีเลย ไหนยังจะความเครียดสะสม ชีวิตหนักๆ วนลูป ฯลฯ
คนมากมายไม่ตระหนักไม่เป็นไร แต่รัฐบาลไม่ตระหนักไม่ได้ว่า
ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศที่น้อยเกินไป ไม่ใช่แค่ส่งผลลัพธ์กลับมาเป็นอากาศที่ร้อนที่สุดเท่าที่คนไทยเคยพบ แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นนั้นมีผลกระทบไปหมดตั้งแต่สุขภาพประชาชน ผลผลิตการเกษตรลดลง สภาพธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง เช่น ปะการังฟอกขาวเพราะอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น แน่นอนว่าการท่องเที่ยวทางทะเลย่อมพัง ทั้งหมดนั่นหมายถึงเศรษฐกิจประเทศ ตั้งแต่ภาพเล็กๆ จนถึงภาพใหญ่
โครงการบริการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส (Copernicus Climate Change Service – C3S) ของสหภาพยุโรป (EU) เพิ่งประกาศเมื่อ 8 พฤษภาคม 2567 นี้ว่าโลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วง 12 เดือน ตั้งแต่ พ.ค. 2566- เม.ย. 2567 สูงกว่าค่าเฉลี่ยยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม 1.61ºC
ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
พรรคก้าวไกลยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่สภาแล้ว เนื้อหาส่วนหนึ่งขยับเรื่องต้นทาง จากเดิมที่รัฐบาลประยุทธ์เคยประกาศ ประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 ร่างนี้กำหนดเป้าหมายใหม่ให้ใกล้เข้ามา 15 ปี และทบทวนใหม่ทุก 5 ปี
สิ่งแวดล้อมในทุกมิติต้องเป็นหนึ่งหลักในใจของทุกพรรคการเมือง ร่วมกันถอดชนวนระเบิดเวลาที่จะปลิดอนาคตของทุกชีวิตนี้โดยไม่เลือกข้าง ร่วมกันผลักดันร่างกฎหมายให้ผ่านวาระและประกาศใช้จริง
เราไม่มีเวลาเหลือแล้ว