น้ำตาเกษตรกร: ราคาสินค้าเกษตรต่ำยกกระดาน สะท้อนความไร้น้ำยาของรัฐบาลที่จะดูแลปากท้องประชาชน
ในขณะที่รัฐบาลปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง เศรษฐกิจเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าจากพิษโควิด-19 เศรษฐกิจในหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวต่างเจ็บหนักจากมาตรการล็อกดาวน์ที่การเยียวยาเป็นไปอย่างล่าช้า ทางรอดของคนไทยในตอนนี้เหลืออยู่แค่ภาคเกษตรซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของชีวิตคนรากหญ้า
แต่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาสินค้าเกษตรหลายรายการกลับต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ราคาข้าวหอมมะลิร่วงลงต่อเนื่อง จากตันละ 11,800 ล้านบาท ในเดือนเมษายน กลับลดลงในราคาปริ่มที่จะต่ำหมื่นในปัจจุบัน
ข้อมูลจาก ส.ส. คำพอง เทพาคำ ผู้แทนราษฎรสัดส่วนภาคอีสานของพรรคก้าวไกลบอกกับเราว่าราคาข้าวที่เกษตรกรขายได้จริงต่ำว่านั้นมาก ข้าวเหนียวที่หน่วยงานรัฐรายงานว่าราคาตันละ 9,800 บาท เมื่อเกษตรกรขายที่หน้าโรงสีจริงเหลือเพียงแค่กิโลละ 5-6 บาทเท่านั้น
“ข้าวของปีที่แล้วยังราคาขนาดนี้ ถ้าข้าวปีนี้ออกมาอีกคงไม่ต้องพูดกันว่าจะขายได้เหลือตันละเท่าไหร่” นี่คือสิ่งที่ ส.ส. คำพองบอกกับเรา สอดคล้องกับรายงานของ Think Forward Center – ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ที่บอกว่าความกดดันจากสต๊อกข้าวจะกลายเป็นระเบิดเวลาที่รอวันระเบิดเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวในปีนี้ ถ้ารัฐบาลไม่เร่งทำอะไร
เช่นเดียวกับผลไม้ เราเห็นราคาผลไม้หลายอย่างตกต่ำกันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น มังคุดคละ มีราคาลดลง 74.22 บาท/กก. ในเดือนมิถุนายน 2564 เหลือ 11.99 บาท/กก. ในเดือนกรกฎาคม, เงาะโรงเรียน ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว จากราคา 23.00 บาท/กก. ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม เหลือเพียง 14.19 บาท/กก. ในสัปดาห์ต่อมา, มะพร้าวผลใหญ่ ราคาลดลงจาก 10.40 บาท/ผลในเดือนมิถุนายน ลดลงมาเหลือ 8.40 บาท/ผลในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม และยังลดลงต่อเนื่องเหลือเพียง 8.01 บาท/ผล ในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม
ในรายงานของ Think Forward Center บอกกับเราว่าสาเหตุที่ราคาผลไม้ตกต่ำเกี่ยวพันกับมาตรการล็อคดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญทางการตลาด เช่น ตลาดค้าส่งต่างๆ
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการออกมาตรการใดๆ ของรัฐบาลไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคเศรษฐกิจอื่นๆ รวมทั้งไม่มีการเยียวยาใดๆ ออกมากับผู้ได้รับผลกระทบ
ปัญหาของสินค้าเกษตรแต่ละอย่างต้องมีวิธีการที่แตกต่างกัน ปัญหาราคาข้าวเกิดจากความสามารถในการส่งออกของไทยที่ตกต่ำลงตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ปัญหาราคาผลไม้เกิดจากการหดตัวของเศรษฐกิจภาคอาหารที่ได้รับผลจากการล็อกดาวน์
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ดี ตอนนี้เรายังไม่เห็นนายกรัฐมนตรี หรือผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ปัญหา
ซึ่งนี่ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่เคยเห็นหัวประชาชน!!!
บทความอ้างอิงจาก Think Forward Center
การเตือนครั้งที่ 2 ระวังราคาข้าวหอมมะลิต่ำหมื่น https://think.moveforwardparty.org/article/1555/
ราคาผลไม้ยังร่วงต่อเนื่อง: รัฐบาลควรเร่งพยุงราคาผลไม้โดยด่วน https://think.moveforwardparty.org/article/1565/