free geoip

สร้าง ‘อุตสาหกรรมก้าวหน้า’ เปลี่ยน Made in Thailand เป็น Made with Thailand


เมื่อวานนี้ (28 มีนาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ร่วมเสวนาที่จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อพูดถึง ‘วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย’


พิธาเสนอแนวทาง ‘อุตสาหกรรมก้าวหน้า’ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและฟื้นฟูอุตสาหกรรมของประเทศ สาระสำคัญมี 3 ประเด็น

📌 ประเด็นที่หนึ่ง ‘เป้าหมาย’

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยเป็น Low Tech & Low Touch ต่อไปต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้อุตสาหกรรมไทยพัฒนาเป็น High Tech & High Touch การส่งออกของไทยต้องใส่เทคโนโลยีและดีไซน์ลงไป ซึ่งปัจจุบันประเทศในภูมิภาคเช่น มาเลเซีย เวียดนาม ทำได้ดีกว่าเรา และตอนนี้พรรคก้าวไกลมีบุคลากรอย่าง อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ที่ตั้งใจเข้ามาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง


📌 ประเด็นที่สอง ‘ทิศทางการพัฒนา’

ต้องเปลี่ยนจาก Area based ให้เป็น Supply chain based จากเดิมนโยบายพัฒนาอุตสาหกรมไทยคือ Made in Thailand ทำอย่างไรให้การลงทุนเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่วันนี้ต้องเปลี่ยนเป็น Made with Thailand ทำอย่างไรให้เราเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของโลก ตัวอย่างที่ชัดเจนคือไต้หวัน ที่เข้าไปอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิป-เซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงตัวชี้วัดของเศรษฐกิจต้องไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) แต่ต้องเป็นรายได้ประชาชาติ (GNI)


📌 ประเด็นที่สาม ‘ปัจจัยการผลิต’

ที่ผ่านมามีเพียง 2 รูปแบบคือ อุตสาหกรรมเน้นแรงงาน (Labor intensive) และอุตสาหกรรมที่เน้นเครื่องจักร (Capital intensive) แต่ต่อไปต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้เครื่องจักรกับคนทำงานร่วมกัน เพื่อผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมที่มีความหมายต่อลูกค้า (Personalization) เป็นสินค้าที่มี ‘คุณค่า’ เป็นจุดขาย ไม่ใช่แค่เรื่องราคาที่ถูกลง


การจะสร้างอุตสาหกรรมก้าวหน้าตามแนวทางที่ว่านี้ได้ ประเทศไทยต้องถูกยกระดับผ่าน 5 นโยบาย

(1) นโยบายกฎระเบียบภาครัฐ ต้องเพิ่มการแข่งขันในทุกอุตสาหกรรม, ลดกฎระเบียบภาครัฐ 50%, รู้ผลใบอนุญาตใน 15 วัน
(2) นโยบายการศึกษา อาชีวะต้องเรียนฟรี แก้ไขการขาดแคลนแรงงาน, คูปองเสริมทักษะ-เปลี่ยนอาชีพ 5,000 บาท/คน/ปี, สร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ตลอดชีวิต
(3) นโยบายพลังงาน สนับสนุนการเปิดตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี รัฐดูแลระบบสายส่ง และ ‘ค่าไฟแฟร์’ ลดกำลังการผลิตสำรอง
(4) นโยบายแก้ไขคอร์รัปชัน ระบบ AI จับโกง, คนโกงวงแตก, ป.ป.ช. ยึดโยงประชาชน
(5) นโยบายเศรษฐกิจสีเขียวครบวงจร รถเมล์ไฟฟ้า 100% อุดหนุนงบ 10,000 ล้านบาท และนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงานหักค่าใช้จ่ายได้ 1.5-2 เท่า


อีกหนึ่งคำถามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้รับโจทย์ คือรัฐบาลก้าวไกลจะทำอย่างไร ให้ไทยสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ แข่งขันกับประเทศร่วมภูมิภาคได้ เช่น เวียดนาม



คำตอบของพิธา มาจากคำยืนยันของนักลงทุนต่างชาติ ว่า ‘คอร์รัปชัน’ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การลงทุนในไทยและเวียดนามแตกต่างกัน เห็นได้ชัดเจนจากข้อมูลนี้ เมื่อปี 2020

  • การลงทุนจากต่างประเทศในไทย มูลค่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนเวียดนาม 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ดัชนีความโปร่งใส ไทยอยู่อันดับ 101 (ตกจากอันดับ 85 เมื่อปี 2014) ส่วนเวียดนามอยู่อันดับ 77 (ดีขึ้นจากอันดับ 119 เมื่อปี 2014)


เราจะแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไร? ข้อเสนอของพิธาคือในเมื่อ สมการคอร์รัปชัน = M (Monopoly หรือการผูกขาด) + D (Discretion หรือดุลยพินิจ) – A (Accountability หรือกลไกความรับผิดชอบ)

ดังนั้น ถ้าจะขจัดการคอร์รัปชัน ต้องแก้ปัญหาทีละอย่าง คือ ลดการผูกขาด ลดการใช้ดุลยพินิจ และเพิ่มกลไกความรับผิดชอบ

  1. ลดการผูกขาด ด้วยการใช้ AI จับโกง วิเคราะห์ข้อมูลแบบทันทีหรือ real-time และ ‘ปักธงแดง’ แจ้งเตือนให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบต่อ เมื่อมีโครงการที่เสี่ยงเกิดการทุจริต
  2. ลดการใช้ดุลยพินิจ ด้วยการกิโยตินกฎหมาย ลดกฎระเบียบภาครัฐ 50%
  3. เพิ่มกลไกความรับผิดชอบ ด้วยนโยบาย ‘คนโกงวงแตก’ ทำให้คนที่คิดจะร่วมกันโกง (เช่น คนจ่ายกับคนรับสินบน บริษัทที่จะฮั้วประมูลกัน) ระแวงกัน จนไม่มีใครกล้าร่วมกันโกง


ไม่เพียงแค่นั้น การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในปัจจุบัน นอกจากเราต้องมีคน มีตลาด มีเทคโนโลยี มีโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อม รวมถึงมีสิ่งจูงใจนักลงทุน (เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษี) ประเทศไทยยังควรใช้ประโยชน์จากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อเลือกสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ต้องการให้เกิดการลงทุนในประเทศ เช่น ที่สหรัฐฯ อุดหนุนอุตสาหกรรมชิป 1.8 ล้านล้านบาท ญี่ปุ่น 2.4 แสนล้านบาท อินเดีย 3.5 แสนล้านบาท ในขณะที่ประเทศไทย 0 บาท


การสร้างอุตสาหกรรมก้าวหน้าควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน จะทำให้ประเทศมีความโปร่งใสและกลับมามีขีดความสามารถในการแข่งขัน คนไทยและประเทศไทยจะไม่ตกขบวน แต่จะเข้าไปเชื่อมโยงเป็นส่วนผสมหนึ่งในห่วงโซ่การผลิตของโลก


สื่อชิ้นนี้ผลิตโดย พรรคก้าวไกล เลขที่ 167 ชั้น 4 ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 จำนวนที่ผลิต 1 โพสต์ วันที่ผลิต 29 มีนาคม 2566

Login

จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล 7 สิงหาคม 2567 เราขอยุติการรับสมัครสมาชิกพรรคและการรับบริจาค ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้อดีต ส.ส. พรรคก้าวไกลทั้งหมดได้ย้ายไปยังพรรคประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรุณาติดต่อที่ เว็บไซต์พรรคประชาชน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า